นิทานเรื่อง ความลับของความสุข

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีพี่น้องผู้ชาย 3 คน ชื่อ สมิธ ทิมโมน และ ซานเดอร์ พวกเขาอาศัยอยู่ในกระท่อมไม้แห่งหนึ่งด้วยกัน พวกเขาเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์ ขยันขันแข็ง ทุกๆวันพวกเขาจะเข้าป่าไปเก็บไม้ เพื่อนำมาขายชีวิตพวกเขาดำเนินไปอย่างเรียบง่ายแบบนี้ทุกวัน แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขามักรู้สึกเศร้าและอารมณ์ขุ่นมัว ทั้งๆที่ก็มีชีวิตที่ดี แต่พวกเขาก็ยังไม่มีความสุข
วันหนึ่งขณะที่ สมิธ ทิมโมน และซานเดอร์ กำลังเดินทางกลับบ้านพร้อมกับแบกกองท่อนไม้ พวกเขาเห็นหญิงแก่ร่างผอมโซ ตัวงอที่แบกถุงกระสอบอย่างหนักไว้ที่หลังของเธออยู่ ทันใดนั้นกลุ่มพี่น้องทั้ง 3 คนนี้จึงเกิดความสงสารหญิงชราผู้นี้ พวกเขาจึงเดินเข้าไปใกล้แล้วช่วยเหลือ โดยการช่วยถือถุงกระสอบที่หนักนี้ของหญิงแก่ พร้อมกับพาเธอไปส่งถึงที่บ้าน หญิงแก่เมื่อได้รับความช่วยเหลือจาก 3 พี่น้องก็ยิ้มและแสดงการขอบคุณที่พวกเขาช่วยเหลือเธอ เมื่อเดินทางมาถึงบ้าน หญิงแก่ นั้นพวกเขาก็รู้สึกเหน็ดเหนื่อย เพราะแบกทั้งกองไม้และถุงกระสอบหนัก ความจริงแล้วถุงนี้เต็มไปด้วยผลแอปเปิ้ลที่หญิงแก่เก็บมาจากป่า หญิงแก่ผู้นี้ไม่ได้เป็นหญิงแก่ธรรมดาแต่เธอมีพลังเวทมนต์ เธออยากตอบแทน ความมีน้ำใจ ของพี่น้องทั้ง 3 คนนี้ ด้วยการให้รางวัลบางอย่าง หญิงแก่จึงถาม ชายหนุ่มทั้งสามว่า มีอะไรที่พวกเขาอยากจะได้ไหม? พวกเขาบอกหญิงแก่นี้ว่าพวกเขาไม่มีความสุข พวกเขามีบางสิ่งที่อยากได้ โดยแต่ละคนก็บอกความต้องการที่แตกต่างไป ดังนี้
สมิธ บอกว่าเขาอยากได้คฤหาสน์ลังใหญ่ที่เต็มไปด้วยข้าทาส บริวาร มันจะทำให้เขามีความสุข
ทิมโมน อยากได้ฟาร์มขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยผลผลิตเก็บเกี่ยวเต็มท้องทุ่ง มันจะทำให้เขาร่ำรวย
ซานเดอร์ ต้องการภรรยาที่สวยงาม เพื่อที่จะช่วยทำให้เขามีความสุขในทุกๆวันเมื่อกลับมาจากการทำงาน เขาอยากได้ภรรยาใจดี หน้าหวาน จะได้เป็นกำลังใจ และคอยทำให้เขาลืมความเศร้าเสียใจ
เมื่อหญิงแก่ได้ยินดังนั้น ก็ตอบว่าได้ ถ้าสิ่งที่พวกเขาต้องการนี้มันจะทำให้พวกเขามีความสุข จงกลับไปที่บ้านของพวกเธอ แล้วพวกเธอจะได้พบกับสิ่งที่พวกเธอขอในทุกประการ หญิงแก่กล่าว เมื่อได้ยินดังนั้นสามพี่น้องก็ได้เดินทางกลับมาบ้าน แล้วพบกับสิ่งที่พวกเขาอยากได้ทุกอย่าง ทั้งคฤหาสน์หลังใหญ่พร้อมทาสรับใช้ ถูกสร้างขึ้นข้างกระท่อมไม้ ทิมโมนเห็นทุ่งกว้างที่เต็มไปด้วยผลผลิตเก็บเกี่ยวบนพื้นที่ฟาร์มขนาดใหญ่ และซานเดอร์ก็ได้พบกับหญิงสาวแสนสวย ที่จะมาเป็นภรรยาให้กับเขา พวกเขาทั้งสาม ดีใจและได้เริ่มต้นการใช้ชีวิตแบบใหม่
วันเวลาผ่านไป สถานการณ์ที่พวกเขาได้รับในตอนแรกมันเปลี่ยนไปจากเดิม สมิธ ผู้เป็นเจ้าของคฤหาสน์ใหญ่โตเริ่มขี้เกียจ เขาไม่ได้ดูแลบ้าน และออกคำสั่งใดๆกับทาสบริวาร จึงไม่มีใครดูแลสินทรัพย์ต่างๆภายในบ้าน ทิมโมนก็เจอปัญหากับการหว่านไถเมล็ดพันธุ์ลงไปบนทุ่งกว้างขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นการยากลำบากกับเขา และซานเดอร์ ก็พบว่า ยิ่งนานวันเขาไม่ได้รู้สึกสนุกกับการอยู่กับภรรยาคนสวยของเขาเลย สรุปก็คือ พี่น้องทั้งสามคน ไม่มีความสุขอีกครั้ง
วันหนึ่ง ทั้งสามคนได้นัดเจอกัน และตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมหญิงแก่ที่มีเวทมนต์คนนั้น พวกเขาพูดว่า แม้หญิงแก่จะทำให้ความฝันเป็นจริง แต่ทำไมพวกเราถึงมีความสุขได้ไม่นาน พวกเขาจึงจะไปปรึกษาหญิงแก่ผู้นั้นด้วยคำถามเหล่านี้
เมื่อพวกเขามาถึงบ้านหญิงแก่ ที่กำลังทำอาหารอยู่ หญิงแก่ได้พบสามพี่น้องอีกครั้งจึงดีใจมาก เชิญให้รับประทานอาหารร่วมกัน ขณะรับประทานอาหาร ทิมโมนก็เริ่มถามคำถามที่พวกเขาสงสัย ทำไมพวกเขาถึงกลับมาไม่มีความสุขอีกครั้ง จะทำอย่างไรให้มีความสุขมากขึ้น หญิงแก่ได้ฟัง ก็ตอบว่า ทุกสิ่งทุกอย่างมันอยู่ในมือของพวกเธอ ลองมองดูซิ ที่พวกเธอขอพร พวกเธอก็ได้รับมันและมีความสุข แต่อย่างไรก็ตาม ความสุขจะไม่มีวันอยู่จนวันสุดท้ายถ้าเธอขาดสิ่งนี้ นั่นก็คือ ความพึงพอใจและพร้อมที่จะยอมรับ ถ้าเริ่มแรกเธอมีความสุขกับสิ่งนั้น แต่ต่อมาเธอไม่พอใจในสภาพของตน ความเบื่อ ความทุกข์ ก็จะกลับมากาพวกเธอ ทำให้พวกเธอเศร้าอีกครั้ง ขอให้พวกเธอเรียนรู้ที่จะยอมรับ พึงพอใจกับสิ่งนั้น ความสุขและสนุกที่แท้จริงก็จะเกิดขึ้นเอง
สมิธ ทิมโมน และซานเดอร์ ได้ฟังก็ตระหนักได้ว่า พวกเขาทำผิด เมื่อกลับบ้านไป พวกเขามองว่าทำไมพวกเขาถึงได้โชคดีขนาดนี้ ที่ได้ของขวัญตามพรที่ปรารถนา สมิธหันมาดูแลคฤหาสน์หลังใหญ่ที่เขาได้รับเป็นอย่างดี โดยสั่งให้ข้าทาสบริวารช่วยกันดูแลสิ่งของทรัพย์สิน ทิมโมนเริ่มที่จะไถและเตรียมการปลูกพืชผลทางการเกษตรด้วยความขยันขันแข็ง เพราะเวลาต่อมาเขาจะได้รับผลผลิตที่มากมาย และซานเดอร์ ก็เรียนรู้ที่จะเข้าใจ ซาบซึ้งในการดูแลงานบ้านงานเรือนของภรรยาคนสวยของเขาที่ทุ่มเท ดูแลให้ในทุกๆวัน และพี่น้องทั้งสามก็ได้เรียนรู้ว่า ความสุขที่แท้จริงก็มาจากการยอมรับ ของทุกอย่างมีสองด้านเสมอ แต่เมื่อไหร่ที่พึงพอใจและยอมรับแล้ว พวกเขาจะไดเพบกับความสุขที่แท้จริงตลอดไป