ทิศทางของชีวิต ตอนที่ 2

มาต่อกันที่จะทำอย่างไรให้เกิดผลลัพธ์ได้จริงในตัวคุณ  ในการกำหนดทิศทางของชีวิตคุณเองต่อ จาก ทิศทางของชีวิต ตอนที่ 1 ที่ได้กล่าวว่าทิศทางของชีวิตจะเป็นเช่นไรก็อยู่ที่จิตใต้สำนึกของคนเรา แต่เพราะอะไรถึงไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการในแต่ละคนไม่เท่ากัน นั่นเป็นเพราะบางคนไม่มีความมั่นใจ ใช้ความพยายามมากเกินไป ไม่เป็นธรรมชาติ กับจิตใต้สำนึกของตัวเอง อะไรที่พยายามมากเกินไปก็จะปิดกั้นความสำเร็จได้ คุณต้องจำไว้ว่า จิตใต้สำนึกนี้ จะยอมรับเอาแนวคิด แล้วจำนำแนวคิดนี้ไปก่อสร้างให้เกิดผลขึ้นมา และเกิดเป็นผลลัพธ์ในท้ายที่สุด สิ่งเหล่านี้จึงสามารถเกิดเป็นจริงได้ ทั้งแนวคิดที่ดีและแนวคิดที่ไม่ดี

ถ้าคุณมีแนวคิดที่ไม่ดีมาก ผลที่ตามมาก็คือ จิตใต้สำนึกก็จะนำสิ่งแย่ๆมาสู่คุณ  ในขณะเดียวกัน ถ้าคุณมีแนวคิดที่ดี จิตใต้สำนึกก็จะนำสิ่งดีๆมาสู่คุณ ซึ่งต้องเป็นไปตามธรรมชาติด้วย หมายถึงการที่คุณไม่ได้ไปบีบเค้นความคิด หรือความรู้สึกของตัวเอง ให้มันดีหรือร้าย แต่มันเป็นไปตามธรรมชาติ จิตใต้สำนึกไม่ได้ตอบสนองความนึกคิดของคุณเท่านั้น หากแต่ยังตอบสนองต่อความศรัทธาของคุณ นี่จึงเป็นสามเหตุที่ว่า ทำไมคนเรา สวดคาถาเหมือนๆกัน แต่ความรู้สึกที่มีต่อคาถานั้นต่างกัน หรือถ้าจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพก็เรื่อง การยิ้ม เวลาเรามองใครยิ้มให้เรา เราก็มักจะมองออกว่าเขายิ้มด้วยความจริงใจหรือเสแสร้ง ถ้ายิ้มมากไปก็คือการตั้งใจยิ้มมากเกิน มันก็จะออกมาอีกรูปแบบ เหมือนกับว่าเขาไม่ได้อยากยิ้ม แต่ต้องยิ้มให้ได้ จึงไม่เป็นไปธรรมชาติ ทำให้ดูออกว่าฝืนยิ้มและขัดตา ต่างจากคนที่ยิ้มแบบจริงใจ เขาจะไม่ฝืนอะไร เพราะมันมาจากข้างในจริงๆ แววตา และความรู้สึกที่แสดงออกมาทางสีหน้า มันจึงตรงกับความรู้สึกข้างใน คนที่มองเห็นก็จะรับรู้ได้เอง

ถ้าจิตใต้สำนึกลึกๆของคุณมันคิดตลอดเวลาว่า มันเป็นไปไม่ได้ ทำไม่ได้หรอก มันไม่จริงหรอก แต่คุณพร่ำบอกกับตัวเองว่า มันเป็นไปได้ ฉันเก่ง ฉันดี สิ่งนี้เป็นการฝืนความรู้สึกตัวเอง เป็นการกดดันตัวเอง และถ้าภายในมันขัดแย้งกับคำพูด เราจะรู้สึกสับสน ยากที่จะยอมรับ และเกิดความกดดัน  อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ใช่เรื่องยากแถมอาจจะง่ายนิดเดียวที่จะทำก็ได้เพียงแต่การที่จะรู้ว่าต้องทำตรงไหนและทำอย่างไร นี่แหล่ะที่มันยาก คล้ายๆกับการที่เราต้องร่ำเรียนหนังสือมาในโรงเรียน ในมหาวิทยาลัย ใช้เวลาหลายปี เพื่อจบออกมาแล้ว เวลาที่เราจะทำงาน มันก็ทำได้ง่ายนิดเดียว แค่เห็นก็รู้แล้วว่าทำอย่างไร ทำอะไร เริ่มตรงไหน ดังนั้น จงรู้สึกสุข สงบ ให้ร่างกายและทุกอย่างเป็นไปในทิศทางเดียวกับจิตใจภายใน เมื่อทุกอย่างสอดคล้องกัน มันก็จะง่าย คุณต้องใช้จิตนาการไม่ใช่ใช้อำนาจบังคับจิต การใช้พลังจิตใต้สำนึกนี้ไม่เหมือนกับการที่เราไปผลักสิ่งกีดขวางต่างๆ ที่ขวางทางเราอยู่ตรงหน้า การทำงานหนักแบบนั้นไม่ได้นำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีขึ้นไปกว่าปกติ หากแต่การปล่อยให้ตัวเองได้จินตนาการ คิดถึงสิ่งเราต้องการจริงๆ ทำอะไรที่ง่ายๆเข้าไว้ จะช่วยให้เราสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้มากกว่าการไปบังคับจิตใจ ถ้าคุณอยากจะเป็นคนที่สามารถกำหนดและควบคุมทิศทางของชีวิตตัวเองให้ไปในทางที่ดีได้จริง ก็ต้องพยายามฝึกฝน พัฒนา คิดแต่สิ่งดีๆ ทำแต่สิ่งดีๆ แบบไม่ฝืนให้เป็นไปตามธรรมชาติ ให้จิตใต้สำนึกของคุณเชื่อ แล้วทิศทางของชีวิตคุณก็จะเกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเอง

One comment

  1. […] การที่คุณจะนำพาทิศทางของชีวิตตัวเองไปในทิศทางไหนก็ขึ้นอยู่กับคุณ เพราะคนเราแท้จริงแล้วมีพลังอันไร้ขีดจำกัดภายในตัวอยู่แล้ว แต่เราจะทำอย่างไรให้พลังนี้มีผลต่อตัวเราขึ้นมาล่ะ คำแนะนำก็คือ ขณะหลับ คิดแต่ถึงสิ่งดีๆก่อนนอน จงระวังความคิด เพราะเมื่อไหร่ที่คิดมาก มันอาจจะมากพอ ทำให้เกิดเป็นความจริงได้ จงเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นคนใหม่ ลดความกลัวและกังวล เพราะความกังวล ความกลัวสามารถทำร้ายและนำความเจ็บปวดมาให้เราได้ แต่ให้ตอกย้ำสิ่งดีๆ ความสุข และความสวยงามให้กับชีวิตเรา สิ่งเหล่านี้ก็ถือเป็นหลักการปฏิบัติที่ควรจะนำมาใช้แต่ จะทำอย่างไรให้เกิดผลลัพธ์ได้จริงในตัวคุณ เพราะใช่ว่าคนทุกคนทำแบบเดียวกัน แล้วจะได้ผลลัพธ์เหมือนๆกัน ถ้าอย่างนั้นคนทุกคนก็จะมีชีวิตที่ดีกว่านี้กันไปหมดแล้วถูกไหม? มาหาคำตอบการทำให้กำหนดทิศทางของชีวิตคุณเองได้จริงต่อใน ทิศทางของชีวิต ตอนที่ 2 […]

Comments are closed.