ทำอย่างไรถึงจะให้คนยอมทำงานให้เราด้วยความเต็มใจ

การทำงานในหลายๆครั้ง ไม่ใช่แค่คุณคนเดียวที่จะสามารถจัดการหรือทำเพียงคนเดียวได้ บ่อยครั้งที่คุณจะต้องได้รับความร่วมมือจากคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง หรือแม้แต่หัวหน้าของคุณเอง เป็นต้น ถึงแม้ว่าในเบื้องต้นคุณอาจจะคิดว่างานบางอย่างที่พวกเขาเหล่านั้นช่วยคุณมันเป็นหน้าที่ของพวกเขาอยู่แล้ว อย่างไรเสียพวกเขาก็จะต้องจัดการมัน ไม่ว่าคุณจะพูดจาแบบไหน บอกเขาอย่างไรก็ตาม พวกเขาต้องรับผิดชอบอย่างแน่นอน แต่คุณรู้ไหมว่าการประสานงานให้ฝ่ายต่างๆร่วมทำงานกับคุณนั้นถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญเหมือนกัน เพราะถึงแม้จะเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของพวกเขาที่จะต้องทำ แต่ถ้าคุณไม่รู้จักใช้คำพูดที่เหมาะสม งานที่เหล่านั้นก็จะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างราบรื่น แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าคุณรู้จักวิธีการพูด ใช้ศิลปะการพูดได้อย่างถูกวิธี พวกเขาเหล่านั้นอาจจะยอมทำงานให้คุณด้วยความเต็มใจอย่างเต็มที่ โดยไม่ได้คิดว่ามันคือหน้าที่ความรับผิดชอบ หากแต่มันคือความเต็มใจที่อยากจะช่วยเหลือให้งานนั้นมันออกมาดีที่สุด แล้วผลลัพธ์แบบไหนกันล่ะที่คุณอย่างได้ ระหว่าง งานแค่บรรลุเป้าหมายให้เสร็จๆไป หรือ งานที่ออกดีเกินคาด ?

คำพูดเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าใครรู้จักใช้ให้เป็น มีทักษะวิธีการพูดที่ชาญฉลาด มันสามารถโน้มน้าวจิตใจของคนให้ทำอะไรก็ได้ คำพูดสามารถทำให้คนเปลี่ยนการตัดสินใจได้ภายในพริบตาเดียว ถ้าจะให้ยกตัวอย่าง ก็เห็นจะเป็นเรื่องราวทางด้านธุรกิจที่เรามักได้ยินได้ฟังกันอยู่บ่อยๆ จากกรณีที่นักลงทุนยอมลงนามเซ็นสัญญากับผู้ร่วมทุน ก็เพราะมาจากการเจรจาต่อรองที่เป็นผลอย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง มีคนเคยกล่าวไว้ว่า น้ำผึ้งเพียงหยดเดียวสามารถดึงดูดมดมาได้เป็นสิบเป็นร้อยตัว มากกว่าน้ำบอระเพชร เป็นถังๆ ที่มีรสชาติขม แม้แต่มดสักตัวเดียวก็ไม่เดินเข้าไปหา ก็เปรียบเสมือนคำพูดคำจา เพียงแค่พูดจาไพเราะ ไม่หยาบคาย กับผู้อื่น พวกเขาเหล่านั้นก็ย่อมอยากจะช่วยเหลือพูดคุยกับคุณในทุกๆเรื่อง แตกต่างกับคนที่พูดจาหยาบคาย หยาบกระด้าง ก็ย่อมไม่มีผู้ใดอยากเข้าใกล้ เพราะพูดคุยด้วยแล้วเหมือนถูกด่าตลอดเวลา ฉะนั้น การจะทำงานการสิ่งใดพูดจาไพเราะไว้เสมอจะนำพาคุณประโยชน์และความสำเร็จมาสู่ตัวของคุณเสมอ