ก่อนจะไปสู่คำถามที่ว่า ข้อดีของกฎเมอร์ฟี่คืออะไร? เราควรจะรู้จักกฎของเมอร์ฟีกันเสียก่อน Murphy’s Law หรือ กฎของเมอร์ฟี เป็นคำพูดที่กล่าวไว้ว่า “Anything that can go wrong, will go wrong” (ทุกสิ่งที่สามารถผิดพลาดได้ จะผิดพลาด)
ฟังๆดูแล้วกฎแบบนี้ดูเหมือนรู้ไปก็ไม่เกิดประโยชน์โพดผลใดๆ หากแต่ถ้าคุณเป็นคนที่มองโลกในแง่บวกแล้วล่ะก็ คุณอาจจะมีวิธีการมองที่แตกต่างไปจากหลายๆคนได้ สำหรับเราแล้ว เรามองเห็นข้อดีบางอย่างในกฎของเมอร์ฟีถึง 2 ข้อด้วยกัน เราขอพูดถึงในส่วนของก่อนและหลังของเหตุการณ์ที่เกิด ดังนี้
- ข้อที่ 1 กรณีเหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้น : อย่างน้อยๆ คำพูดนี้ก็ทำให้เราคิดได้ในแง่ของการลดข้อบกพร่อง ในเมื่อสิ่งต่างๆมีโอกาสเกิดความผิดพลาดได้เสมอ แล้วทำไมเราจึงไม่สำรวจสิ่งเหล่านั้นก่อนล่ะ กฎของเมอร์ฟี ช่วยให้เราลดไม่ความประมาทของการกระทำหรือเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต มันช่วยให้เรากลับไปตรวจสอบทุกอย่างอีกครั้ง
- ข้อที่ 2 กรณีเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว : หมายความว่า เราได้ทำบางอย่างไปแล้วแล้วมีข้อผิดพลาดบางอย่างเกิดขึ้น กฎของเมอร์ฟี ก็ถือเป็นคำปลอบใจได้อีกทางว่า ถึงแม้เราจะทำเต็มที่ด้วยความสามารถแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีความผิดพลาดเกิดขึ้น นั่นก็แสดงว่าคุณอาจจะไม่รอบครอบพอ แต่ก็อย่าเสียใจไปเลย เพราะมันก็จะเป็นบทเรียนและประสบการณ์ให้สอนคุณเอง
จากข้อดีของ กฎเมอร์ฟี ที่เรากล่าวถึง คือ ช่วยลดความไม่ประมาท และ เป็นบทเรียนสอนนั้น อีกอย่างที่เราอยากจะบอกว่า ถ้าอะไรจะเกิดมันก็จะเกิดอยู่ดี ดังนั้นเราอย่ามัวไปเสียใจกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเลย เอาเวลาที่เราเสียใจตรงนี้ไปพัฒนาหรือหาทางป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคตจะดีกว่า